ทางเลือกที่สามารถช่วยชีวิตผมได้ แม้ป่วยเป็นโรคหัวใจ


ปัญหากับโรคหลอดเลือดตีบตัน


Cover Story เรื่องจากปก
บทสัมภาษณ์คุณกษิดิศ  กำแพงแก้ว
ทางเลือกที่สามารถช่วยชีวิตผมได้ แม้ป่วยเป็นโรคหัวใจ
สำหรับคอลัมน์นี้เราจะพาท่านสมาชิกไปสัมผัสกับประสบการจริง  กับผู้ป่วยที่ประสบปัญหากับโรคหลอดเลือดตีบตัน ถึงขั้นกล้ามเนื้อหัวใจตาย แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว  ร่างกายแข็งแรง สามารถใช้ชีวิตและปฏิบัติภารกิจได้อย่างปกติ  คุณกษิดิษ  กำแพงแก้ว เป็นผู้ป่วยของทางแอ็บโซลูท  เฮลธ์ ได้เข้ารับการรักษาเดือน ตุลาคม 2551
ปกติผมเป็นคนที่ให้ความสำคัญใส่ใจดูแลสุขภาพอยู่แล้ว ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  ออกกำลังกายโดยเข้าฟิตเนสเป็นประจำ  ร่างกายแข็งแรงมาโดยตลอด ไม่ค่อยจะมีอาการเจ็บป่วยเลย  จนมีอยู่วันหนึ่งรู้สึกปวดหลังเลยไปหาหมอที่โรงพยาบาลจะไปขอยาคลายกล้ามเนื้อมาทาน  ปรากฏว่าพอไปถึงโรงพยาบาลก็เป็นลมหมดสติไป  แพทย์เลยให้เข้าห้องไอซียูแล้วทำการตรวจวินิจฉัยถึงได้ทราบว่ากล้ามเนื้อหัวใจของเราตาย ค่อยๆๆตาย แล้วแพทย์ก็บอกกับเราว่าอยากจะเช็คว่าเส้นเลือด(หรือหลอดเลือด)เส้นไหนที่อุดตันบ้าง  คุณหมอแนะนำให้ฉีดสีก่อนเพื่อให้รู้ตำแหน่ง  เพื่อวินิจฉัยต่อว่าจะทำการรักษาด้วยวิการทำบอลลูนหรือบายพาสอีกที แต่ผมก็ไม่อยากที่จะทำการรักษาด้วยวิธีนี้  ผมจึงมองหาทางเลือกอื่นๆ ที่ปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียง  จึงตัดสินใจเข้ามาทำการรักษาด้วยวิธีการแพทย์บูรณาการ ที่แอ็บโซลูท เฮลธ์ นี่แหละครับ  พอมาถึงแพทย์ก็ให้เช็คร่างกายทั้งระบบ ด้วยเครื่องตรวจเช็คคลื่นพลังงานที่เรียกว่า Bio Energetic Scan แล้วผลก็ออกมาซึ่งตรงกับความเป็นจริง  พอทราบสาเหตุที่แท้จริงแล้วผมจึงตัดสินใจทำการรักษา โดยแพทย์แนะนำให้ทำคีเลชั่น 30 ครั้ง    จริงๆ แล้วเรื่องการทำคีเลชั่น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ข้อนข้างใหม่สำหรับคนไทย เพราะไม่มีอยู่ในการรักษาตามโรงพยาบาล มีอยู่เฉพาะบางที่เท่านั้น  แต่ผมพอทราบมาบ้าง เพราะว่าตัวผมเคยเรียนแพทย์แผนไทยอยู่ด้วย จึงทราบถึงข้อมูลและประโยชน์ของการรักษา
การทำคีเลชั่น เป็นการล้างสารพิษ สารโลหะหนักออกจากหลอดเลือด เหมือนกับการให้น้ำเกลือแหละครับ   แล้วขับออกมาทางปัสสาวะ เมื่อทำไปเรื่อยๆๆ พวกนี้ก็จะหมดไปจากร่างกาย ทำให้หลอดเลือดสะอาดขึ้น  ตอนที่เป็นใหม่ๆ  ไปตรวจประสิทธิภาพของหัวใจทำงานได้เพียง 38(เลือดสามารถไปเลี้ยงหัวใจทำงานได้แค่ 38%) ผมอยากจะรู้ผลจากการทำคีเลชั่นไป 30 ครั้ง ว่าผลจะเป็นอย่างไรบ้าง คืออยากจะรู้ครับว่าที่เราตัดสินใจไปถูกหรือผิด ผมได้ไปทำการตรวจหัวใจด้วยเครื่อง เซเลียมสแกน  (Calcium Scoring)   อีกครั้ง แพทย์ก็บอกว่าผลการตรวจออกมาแล้วนะ หัวใจทำงานได้ 50% แล้ว  แล้วผมก็ใช้วิธีการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง (Maintain) เป็นประจำทุกๆปี ผมก็จะต้องตรวจเช็คร่างกาย ทำคีเลชั่นเพื่อดูแลรักษาหลอดเลือดของเราให้แข็งแรงเพื่อให้เลือดไหลเวียนดี
สุดท้ายผมอยากจะฝากถึงผู้ที่กำลังมีปัญหาเช่นเดียวกับผม เพื่อเป็นประโยชน์และแนวทางในการเลือกรักษา การทำคีเลชั่นก็คือการล้างหลอดเลือดล้างทั้งร่างกาย  โอกาสที่จะเกิดน่าจะน้อยลงหรือไม่มี  แต่ในเวลาเดียวกันเราต้องดูแลร่างกายร่วมด้วยนะครับ
 ข้อแนะนำเพิ่มเติมจาก นพ.วิทย์  สมบัติวรพัฒน์
คำถาม         :        โรคนี้เป็นโรคที่ไม่รู้ตัวมาก่อนเป็นไปได้หรือครับ  หลายคนที่เป็นจึงมีอาการหนักแบบนี้
นพ.วิทย์        :         ใช่ครับ  เป็นไปได้ครับ หลอดเลือดที่ตีบตันของคนไข้ 30-40จะมีตะกรันอยู่ในหลอดเลือด ส่วนอีก  70% จะซ่อนตัวที่ผนังจะจับตัวกันเป็นพลัค  แล้วเมื่อพลัคแตกก็อุดตันทันที  นั่นคือคนไข้ที่ไม่มีอาการมาก่อน  70% จึงเป็นกรณีนี้  เมื่อไรถึงเวลาที่จะอุดก็จะอุดเลย เส้นเลือดอุดตัน  กล้ามเนื้อหัวใจก็จะค่อยๆตายลงไป
คำถาม        :        ขั้นนี้ถือเป็นขั้ที่เรียกว่านกล้ามเนื้อหัวใจตาย  ถือเป็นขั้นรุนแรงที่สุดเลยใช่ไหมครับ
คุณหมอวิทย์ :        ใช่ครับ คือไม่มีการเตือนให้รู้ล่วงหน้าเลย ถึงเวลาก็จะอุดไปเลย กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไม่กี่ชั่วโมงก็จะเกิดการตายตามมาครับ
คำถาม  :        หลายๆคนได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับการทำคีเลชั่น  อยากให้คุณหมออธิบายถึงการทำคีเลชั่นครับ
คุณหมอวิทย์ :        จริงๆแล้วถ้านึกภาพง่ายๆก็คือการให้น้ำเกลือธรรมดา  แต่ในน้ำเกลือเราจะใส่กรดอะมิโนหรือโปรตีนหน่วยย่อย นั่นก็คือสารจากธรรมชาตินั่นเอง สารตัวนี้มีชื่อเรียกว่า EDTA ใช้ร่วมกับวิตามินต่างๆ  เป็นสูตรเฉพาะขึ้นมาแล้ว  เมื่อทำคีเลชั่นแล้วก็จะเข้าสู่ขบวนการ โดยสาร EDTAจะ ไปทำการจับสารโลหะหนัก  แล้วขับออกมาทางปัสสาวะ เมื่อทำไปเรื่อยๆๆ สารพิษ สารโลหะหนักพวกนี้ก็จะหมดไปจากร่างกาย ทำให้หลอดเลือดสะอาดขึ้น  สารพิษโลหะหนักที่สะสมในร่างกายถูกขับออกไปได้  
คำถาม        :        ในกรณีของคุณกษิดิษ  หัวใจทำงานได้เพียงแค่ 38 เอง หมายความว่าอย่างไรครับ แล้วจะทำการรักษาอย่างไรต่อ
คุณหมอวิทย์ :        ครับ  หมายความว่าเลือดสามารถไปเลี้ยงหัวใจทำงานได้แค่  38% เท่านั้น  จาก 100เกิดการอุดตันมากเหลือเลือดไปเลี้ยงแค่  38จะต้องรีบทำการล้างหลอดเลือดเพื่อเพิ่มปริมาณของเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจให้ได้มากขึ้น มิฉะนั้นกล้ามเนื้อหัวใจจะตาย ถ้าทางการแพทย์แผนปัจจุบันก็จะใช้วิธีการทำบอลลูนหรือบายพาส  แต่ใดเมื่อเราปฏิเสธทางนั้น  เราจะทำยังไง  คีเลชั่นจึงเป็นทางเลือกที่สามารถช่วยตรงนี้ได้  ตัวอย่างของคุณกษิดิษทำคีเลชั่นไปแล้ว 30 ครั้ง แล้วไปทำ เซเลียมสแกน  (Calcium Scoring)   อีกครั้ง ผลออกมาหัวใจทำงานได้ 50% 
คำถาม        :        หัวใจทำงานได้ 50 ดีขึ้นไหมครับคุณหมอ
คุณหมอวิทย์ :        ใช่ครับ  สามารถเพิ่มเลือดให้ไปเลี้ยงหัวใจได้ถึง 50%  ถือเป็นที่น่าพอใจ คนไข้อยู่ได้ ไม่มีปัญหา เรื่องหัวใจขาดเลือดอีก  ไม่มีปัญหาเจ็บหน้าอก โดยการทำคีเลชั่นอย่างเดียวเท่านั้น โดยที่ไม่ไปผ่าตัดทำบอลลูนหรือบาย สามารถลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด  การทำบอลลูน  และบายพาส  
ก็ถือเป็นผู้ป่วยอีกหนึ่งท่านที่เลือกใช้วิธีการรักษาด้วยการแพทย์บูรณาการ และเป็นผู้ที่ดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติตัวเองอย่างเคร่งครัดด้วยวิธีการเลือกรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ทานวิตามินและอาหารเสริม เพื่อช่วยบำรุงร่างกาย ถ้าสังเกตจากภายนอกจะไม่มีใครรู้ว่าคุณกษิดิษเคยป่วยเป็นโรคหัวใจ

Unknown

Phasellus facilisis convallis metus, ut imperdiet augue auctor nec. Duis at velit id augue lobortis porta. Sed varius, enim accumsan aliquam tincidunt, tortor urna vulputate quam, eget finibus urna est in augue.