โรครองช้ำหรือเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ ทางการแพทย์เรียกว่า Plantar Fasciitis
จะมีอาการปวดบริเวณส้นเท้า หลังจากตื่นนอนใหม่ หรือเจ็บตลอดเวลา หรือ เจ็บตอนเริ่มออกกำลังกาย สักพักหนึ่งก็จะดีขึ้น บางคนเดินสักพักก็หายปวด แล้วเริ่มปวด..ใหม่
สาเหตุ
เอ็นฝ่าเท้าอักเสบหมายถึงเอ็นที่ยึดระหว่างส้นเท้าและกระดูกเกิดการอักเสบทำให้ปวดฝ่าเท่าเมื่อตื่นลุกขึ้นในตอนเช้า และก้าเท้าลงพื้น เกิดการปวดบริเวณฝ่าเท้าและส้นเท้า แต่หลังจากเดินไป 3-4 ก้าว อาการปวดก็จะบรรเทาลง อาการปวดมักจะอยู่ที่ส้นเท้าตรงด้านล่างของเท้า ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่ช่วงวัยกลางคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เนื่องจากเส้นเอ็นจะมีความยืดหยุ่นน้อยลง และแผ่นไขมันที่ช่วยรองรับส้นเท้าบางลงนั่นเอง
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการรองช้ำ ได้แก่
เป็นโรคเท้าแบน หรือ มีส่วนโค้งของเท้ามาก
ใช้เท้าทำงานมากเกินไป จึงมีการดึงรั้งของเอ็นใต้ฝ่าเท้า บริเวณที่เจ็บจะเป็นบริเวณที่มีการรับแรงกดมากที่สุดบ่อยครั้ง จึังเกิดการอักเสบ ดังนั้นสาเหตุใหญ่ เนื่องมาจากการใช้งานมากเกินไป เช่น ช้อปปิ้งมาก ออกกำลังกาย เช่น วิ่งบนรองเท้าใหม่ รองเท้าพื้นแข็งเกินไป หรือ วิ่ง เดิน บน พื้นคอนกรีต น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ยกของหนักนานๆ หรือ ตั้งครรภ์ แม้แต่ใส่รองเท้าที่ไม่พอดีกับเท้า เป็นต้น
การดูแลรักษาพยาบาล
- การรักษาเบื้องต้น คือ ลดการใช้เท้า หาพื้นรองเท้าที่นุ่มกว่ามาใช้
หรือหารองเท้าเจาะรูขนาดเท่าเหรียญ 10 บาท บริเวณที่ปวดเท้า เพื่อลดแรงกระแทกต่อส่วนที่อักเสบ
2. การใช้กายภาพบำบัด ช่วยยืดเส้นกล้ามเนื้อ Stretching Exercise ต้องใช้เวลานาน ประมาณ 2-4 เดือนจึงจะได้ผล
วิธีทำ 1. ยืนห่างจากโต๊ะหรือกำแพงประมาณ 24 นิ้ว ก้าวเท้ามาข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วย่อสะโพกและเข่าลง จะทำให้รู้สึกตึงบริเวณกล้ามเนื้อน่อง เอ็นร้อยหวาย และเอ็นฝ่าเท้า ให้ทำแต่ละครั้งนาน 10 วินาที ทำ 20 ครั้ง
2. ยืนห่างกำแพงหรือเสา ประมาณ 24 นิ้ว มือยันกำแพง ส้นเท้าทั้งสองข้างติดพื้น โน้มตัวไปข้างหน้าจะมีอาการตึงกล้ามเนื้อน่อง เอ็นร้อยหวายและเอ็นฝ่าเท้า ทำแต่ละครั้งนาน 10 วินาที ทำ 20 ครั้ง
3. ยืนด้วยฝ่าเท้า โดยให้ปลายเท้าข้างที่เจ็บอยู่บนบันไดขั้นที่สูงกว่า และพยายามให้ส้นเท้ายืดลงด้านล่างของขั้นบันได ให้ได้มากที่สุด
3. การนวด แนะนำโดยอาจารย์ ไพรัตน์ เทศก์สวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดแผนไทย ปัจจุบันท่านเป็นจิตอาสา ที่โรงพยาลพระนั่งเกล้า ช่วยรักษาคนไข้โดยไม่รับค่าตอบแทน
กำนิ้ว ใช้นิ้วกลางกดลงที่ส้นเท้า บริเวณที่เจ็บ เพื่อคลายจุด ทำบ่อยๆ จะช่วยให้อาการเจ็บลดลง
4. การใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซ็ทตามอล หรือ ยาแก้อักเสบ หรือ ฉีดยาสเตียรอยด์ เฉพาะที่บริเวณที่ปวด หรือ เข้ารับการบำบัดพิเศษ
วิธีที่ผู้เขียนจะแนะนำก็คือ
วิธีการรักษาแบบเบื้องต้น โดยการเจาะรูที่พื้นรองเท้า ซึ่งได้ผลดีอย่างนามหัศจรรย์
เมื่อเรามาวิเคราะห์ว่าทำไมจึงเจ็บส้นเท้า ก็เนื่องจากเท้ารับแรงกดและกระแทกที่ตำแหน่งเดิม ทุกครั้งที่เหยียบเท้าลง เมื่อมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจากสาเหตุใด ก็ยิ่งทำให้เอ็นบริเวณนั้นต้องทำงานหนักและรับน้ำหนักมาก จึงทำให้เกิดอาการเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการที่เราจะแก้ปัญหานี้ได้ เราต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ การที่เท้ารับแรงกดกระแทกที่ตำแหน่งเดียวมากเกินไปมาก เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว
วิธีแก้ไข คือ หาวิธีกระจายแรงดกกระแทกไปที่บริเวณอื่น เพราะเมื่อเราเหยียบเท้าลง แรงกดไม่อยู่ตำแหน่งเดิม จะช่วยให้เอ็นที่อักเสบค่อยๆฟื้นตัวขึ้น จนหายเป็นปกติ
การเจาะรู
เราจะจ้องเจาะ เพื่อให้เป็นช่องที่เมื่อเหยียบเท้าลงไปแล้ว บริเวณที่เจ็บ จะต้องไม่สัมผัสกับพื้นรองเท้า
สำหรับวัสดุที่นำมาใช้เสริมพื้นรองเท้า อาจใช้แผ่นโฟมนิ่มๆ ที่มีความหนาประมาณ 0.25 นิ้ว หรือ 0.50 ซม. ซ้อนกัน 2 ชั้น หรือหาแผ่นหนาประมาณ 6-8 มม. เพื่อให้มีระยะที่รองรับเท้าไม่ให้กดลงตรงพื้นรองเท้า การเจาะรูที่พื้นรองเท้า ยังสามารถใช้กับอาการเจ็บอื่นๆที่เกิดบริเวณฝ่าเท้า เช่น ตาปลา หรือ เจ็บบริเวณนิ้วเท้า (ด้านล่าง) และเท้าส่วนอื่นๆ
ที่มา : จากหนังสือ เคล็ดลับรักษาโรคยอดฮิต ดูแลสุขภาพโดยไม่ต้องพึ่งยา คุณพันธุ์นิภา